Thursday 26 March 2009

การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินกับสิ่งแวดล้อม

การปลูกพืชกับการกับการแก้ปัญหาอากาศเสียและกลิ่นเหม็นภายในอาคาร

การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น ระบบไฮโดรโพนิกส์ ถือว่าเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยทำลายอากาศเสียและกลิ่นเหม็นภายในห้องพักและที่ทำการ (Indoor air pollution) นักวิจัยจากสถาบันพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคโลจ์น ประเทศเยอรมนีพบว่าการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นภายในอาคาร เช่นกลิ่นฟอร์มาลิน เบนซิน และฟีนอล ที่มาจากการใช้วัสดุตกแต่งห้อง เช่น วัสดุที่ทำจากพลาสติกวัสดุก่อสร้างสำนักงาน สี และนิโคตินจากการสูบบุหรี่

ผลจากการศึกษาวิจัยของอาค์การนาซ่า (NASA) และ Associated Landscape Contractors of America (ALCA) ที่ใช้เวลา 2 ปีได้แนะนำพืชที่ควรปลูกภายในอาคาร ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาอาการเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากปัญหาสภาพภายในอาคารที่ไม่ดี (Sick bulding syndrome) พืชเหล่านี้เป็นพืชที่ช่วยดูดฟอร์มาลิน เบนซิน และคาร์บอนมอนอกไซด ได้แก่
พืชในวงศ์ปาล์มสกุล Chammaedorea sp. (Bamboo palm)
อโกลนีมา (Aglaonema sp หรือ Chinese evergreen)
พืชสกุลเดียวกับหมากผู้หรือจันทร์ผา (Dracaena sp.)
พืชสกุลเดียวกับว่านงาช้างหรือว่านงู (Sanseviera sp.)
พืชสกุลเยอบีร่า (Gerbera sp)
พืชสกุลเดียวกับดอกเดหลี (Spathiphllum sp.)
พืชสกุลเบญจมาศ (Chrysanthemum sp.)
พืชที่ปลูกโดยไม่ใช้ดินเหล่านี้สามารถดูดพิษจากฟอร์มาลินปริมาณมากไว้ในใบแล้วเปลี่ยนสิ่งที่ดูดไว้ถึง 90% ไปเป็นน้ำตาลและอื่น ๆ
นักวิจัยได้ศึกษาทดลองพบว่าพืชจำพวกไทร (Ficus) สามารถดูดนิโคตินแล้วเปลี่ยนสลายไปอย่างรวดดดเร็วด้วยการเจริญเติบโต รวมทั้งพบว่าพืชสกุลเดียวกับหวายตะมอย(Pothos) สามารถดูดนิโคตินไว้ในใบอ่อนซึ่งนักวิจัยจากสถาบันพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยโคโลจ์น ประเทศเยอรมณีพบว่ามีปริมาณถึง 30 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักแห้งของใบ 1 กรับ การปลูพืชจำพวกไทยร่วมกับพืชสกุลเดียวกับหวายตะมอยจะมีผลทำให้อากาศที่เป็นพิษในห้องทำงาน เปลี่ยนไปเป็นอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Halim and Tek, 2000)
การใช้การปลูกพืชโยไม่ใช้ดินผลิตพืชสวนประดับในที่ทำงานนอกจากจะสร้างความสวยงามดังกล่าว ธุรกิจการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินที่เกี่ยวกับพืชสวนประดับในที่ทำการต่าง ๆ ในต่างประเทศ เช่น สนามบิน โรงแรง อาคารที่ทำงาน รวมทั้ง้านพักอาศัยจึงได้รับความนิยมสูนในยุโรป สำหรับในเอเซียก็กบว่ากำลังเป็นที่นิยมกันในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียซึ่งเพิ่งจะเริ่มดำเนินการเมื่อประมาณกลางปี 2540

ที่มา : Halim and Tek,2000. การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน ดิเรก ทองอร่าม

ในประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีพื้นที่น้อยแต่มีจำนวนประชากรหนาแน่น รัฐบาลและเอกชันได้ร่วมกันหาทางให้ประชาชนทั้งในเมือง และชนบทมีชีวิตและสุขภาพที่ดี เช่น สมาคมปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินของสิงค์โปร์ (The Singapore Society of Soilless Culture) และสมาคมปลูกพืชของสิงค์โปร์ (The Singapore Cardenig Society) ได้ร่วมกันรณณรงค์ให้ประชาชนรู้จักการรับประทานอาหาร เพื่อสุขภาพ การใช้ชีวิตครอบครัวอย่างเป็นสุข (Happy family life) อยู่กับธรรมชาติที่เขียวขจี (Green life) ด้วยการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินในพื้นที่ว่างตามบ้านพัก ที่ทำงาน และภัตตาคาร เป็นต้น (Halim and Tek,2000)

No comments: