2. เมือวัสดุปลูมีความชื้นแล้ว นำเมล็ดพันธุ์ใส่ตรงกลางถ้วยลึกประมาณ 1 ซม. กลบด้วยวัสดุปลูกแค่พอปิดเมล็ดไม่ให้ปลิว และใช้กระบอกฉีดน้ำแบบฝอยพ่นด้านบน เช้าเย็นทุกวันและให้เก็บไว้ในที่มืดไม่มีแสงเข้า 48 ชั่วโมง
3. วันที่ 3 ให้นำมาวางในตำแหน่งที่มีแสงแดดรำไร เมล็ดจะเริ่มงอก ถ้าหากโต๊ะปลูกว่างก็ให้นำลงรางได้เลย
4. ถ้าเกินกว่า 5 วัน แสดงว่าเมล็ดไม่งอกให้เพาะใหม่
5. เมื่อเมล็ดงอกใบที่ 3 ออกมา เริ่มให้สารละลายอ่อน ๆ แก่พืชแทนน้ำสะอาด
6. การผสมสารอาหารสำหรับต้นอ่อนตามขั้นตอนดังนี้
- นำน้ำสะอาดมาวัดค่า pH (กรด-ด่างของน้ำ) โดยใช้น้ำยา pH Drop Test หรือ pH Meter และปรับให้อยู่ในช่วง 5.5 เพื่อให้การดูดอาหารของพืชเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- ค่า pH สูงกว่ากำหนด ต้องปรับโดยเติมกรดฟอสฟอริก , กรดไนตริก (pH Down)
- ค่า pH ต่ำกว่ากำหนด ต้องปรับโดยเติมโปตัสเซียมไฮดรออกไซด์ (pH Up)
- ปริมาณสารที่ใช้ปรับค่า pH ใส่ในปริมาณ 2-3 หยด
- เติมสารอาหารของพืช (Nutrient) A และ B อย่างละ 1 มิลลิเมตร หรือ 1 cc/ น้ำ 1 ลิตร ลงในถาด และใช้ EC Meter ( Electrical Conductivity) วัดค่าความเข้มข้นของสารละลายให้อยู่ที่ค่า 0.8 สำหรับผักสลัด สำหรับผักไทย ผักจีน และผักญี่ปุ่นให้อยู่ที่ค่า 2.2
- ควรเปลี่ยนน้ำทุกอาทิตย์ หรือเมื่อเกิดตะไคร่น้ำ
- เมื่อต้นกล้าอายุครบ 2 อาทิตย์ ยกต้นกล้ามาลงรางชุดโต๊ะปลูก (ถ้าโต๊ะปลูกว่างอยู่สามารถลงได้ก่อน 2 อาทิตย์ได้เลย)
No comments:
Post a Comment